พบกับเชฟซูชิสาวที่ทุบเพดานกระจก
เนื้อหา
ในฐานะหนึ่งในพ่อครัวซูชิหญิงไม่กี่คน Oona Tempest ต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าเพื่อให้ได้ตำแหน่งของเธอในฐานะโรงไฟฟ้าที่อยู่เบื้องหลัง Sushi by Bae ในนิวยอร์ก
ในระหว่างการฝึกฝนอย่างเข้มงวดเพื่อเป็นพ่อครัวซูชิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะผู้หญิงอเมริกันในพื้นที่ที่ผู้ชายญี่ปุ่นครอบงำ—Tempest วัย 27 ปี ทำงานมากกว่า 90 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ขณะที่เธอยุ่งอยู่กับการทำลายอุปสรรค เธอยังต่อสู้กับโรคภูมิต้านตนเองที่เรียกว่าโรคฮาชิโมโตะโดยไม่รู้ตัว ซึ่งร่างกายจะโจมตีต่อมไทรอยด์ เธอต่อสู้กับความเหนื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ และข้อ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความดื้อรั้นของเธอ “ฉันรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา” Tempest กล่าว “แต่ฉันก็ไปต่อ”
เมื่อเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ พ่อครัวต้องยกเครื่องอาหารของเธอใหม่และกลายเป็นอาหารปลอดกลูเตน ประสบการณ์นั้นได้กลายเป็นกระดูกสันหลังของ MO for Sushi ของ Tempest โดย Bae: Eat to feel good
“ในฐานะพ่อครัว หน้าที่ของฉันคือเลี้ยงแขก ทั้งจากมุมมองของการต้อนรับและโดยใช้ส่วนผสมที่มาจากแหล่งที่ดีที่สุด” Tempest กล่าว แรงบันดาลใจเบื้องหลังรสชาติของเธอนั้นมาจากมหาสมุทร ซึ่งเธอเติบโตขึ้นมาใกล้ ๆ ขณะที่อาศัยอยู่บนชายฝั่งในรัฐแมสซาชูเซตส์
วันนี้เธอทานอาหารมื้อใหญ่ที่ Sushi by Bae ซึ่งเปิดเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ที่บ้านเธอละทิ้งผ้ากันเปื้อนของเชฟและดูแลสิ่งต่างๆ ให้เรียบง่าย การทำงานกะ 14 ชั่วโมงไม่ได้ให้เวลาเธอมากนักในการปรุงอาหารที่ประณีต
“ถ้าฉันมีแค่ส่วนผสมในครัว ฉันจะทำซุปมิโซะ” Tempest กล่าว “ฉันมักจะมีลวดเย็บกระดาษสามอย่างที่เป็นพื้นฐานสำหรับน้ำซุป: มิโซะเพสต์ คอมบุ และคัตสึโอะบุชิ หรือเกล็ดโบนิโต ฉันเก็บคอมบุแช่น้ำเย็นไว้ในตู้เย็น การชงเย็นช่วยป้องกันรสขม ฉันขูดหัวไชเท้าลงในซุปและเพิ่มสาหร่ายที่เรียกว่าวากาเมะ เพื่อให้รู้สึกเหมือนเป็นมื้ออาหาร ฉันจึงใส่เห็ด โดยเฉพาะเอโนกิที่กรุบกรอบ”
มิเช่นนั้น เธอจะโยนผักตามฤดูกาลด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จากอิตาลี เกลือ และพริกไทย ซึ่งเป็นการเตรียมง่ายๆ รวดเร็ว ดีต่อสุขภาพ และอร่อยสำหรับคืนหนึ่งสัปดาห์ “นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการในตอนนี้” เธอกล่าว “ผักหรือข้าวหน้าปลาชามใหญ่”
Shape Magazine ฉบับมกราคม/กุมภาพันธ์ 2020