4 ข้อผิดพลาดด้านอาหารที่ทำให้คุณป่วย
เนื้อหา
ตามข้อมูลของสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งอเมริกา (ADA) ผู้คนหลายล้านคนป่วย ประมาณ 325,000 คนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และเกือบ 5,000 คนเสียชีวิตในแต่ละปีจากความเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหารในสหรัฐอเมริกา ข่าวดีก็คือมันสามารถหลีกเลี่ยงได้เป็นส่วนใหญ่ ทำลาย 5 นิสัยที่ก่อให้เกิดเชื้อโรคเหล่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นสถิติ!
1. จุ่มสองครั้ง จากการสำรวจของ ADA พบว่า 38 เปอร์เซ็นต์ของคนอเมริกันยอมรับว่า "จุ่มสองครั้ง" เป็นวิธีที่แน่นอนในการถ่ายโอนเชื้อโรคลงในชามซัลซ่าหรือจุ่มและแบ่งปันกับครอบครัวและเพื่อนของคุณ
การแก้ไขปัญหา: ให้ทุกคนตักอาหารจุ่มลงในจานของตนเองแทนที่จะกินจากชามรวมใบเดียว
2.ไม่ล้างผักผลไม้ก่อนหั่น หากคุณข้ามการล้างอาหาร เช่น อะโวคาโด สควอช สับปะรด เกรปฟรุต หรือแตงก่อนตัดเพราะคุณไม่กินผิวหนังชั้นนอก คุณอาจจะถ่ายโอนแบคทีเรียที่ซ่อนอยู่จากพื้นผิวไปตรงกลางผลไม้ และทำให้ส่วนที่กินได้ปนเปื้อน
การแก้ไขปัญหา: สมมติว่ามีแบคทีเรียอยู่บนพื้นผิวและล้างอาหารสดทุกอย่างที่คุณกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ปรุงเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ซ่อนอยู่
3. เลือกซื้ออาหารที่เน่าเสียง่ายก่อน ร้านขายอาหารสำเร็จรูปหรือผลิตภัณฑ์นมเป็นจุดแรกของคุณในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้น คุณอาจใส่อาหารเหล่านั้นใน "เขตอันตราย" (40-140 องศาฟาเรนไฮต์) นานกว่าที่แนะนำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
การแก้ไขปัญหา: เลือกซื้อสิ่งของต่างๆ เช่น นมและเนื้อสด แล้วนำไปวางไว้ใกล้กับอาหารแช่แข็งในรถเข็นขายของ
4.รอก่อนแช่เย็น. พ่อครัวประจำบ้านเกือบสี่ในห้าคิดว่าจำเป็นต้องรอจนกว่าอาหารจะเย็นลงก่อนที่จะนำไปใส่ในตู้เย็น แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่ตรงกันข้ามคือความจริง อาหารที่ถูกทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานเกินไปสามารถแพร่พันธุ์แบคทีเรียได้ และแม้ว่าการแช่เย็นจะทำให้การเจริญเติบโตช้าลง แต่ก็ไม่ได้ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในแบบสำรวจของ ADA ฉบับเดียวกันที่กล่าวถึงข้างต้น ผู้คน 36 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่ากินพิซซ่าที่เหลือตั้งแต่เมื่อคืนก่อน...แม้ว่าจะไม่ได้แช่เย็นก็ตาม!
การแก้ไขปัญหา: ทิ้งของเหลือทิ้งทันทีที่คุณทำอาหารหรือทานอาหารเสร็จ การทดสอบการดมกลิ่นหรือรสจะไม่ได้ผล เพราะคุณไม่สามารถมองเห็น ดมกลิ่น หรือลิ้มรสแบคทีเรียที่ทำให้คุณป่วยได้